“ชลน่าน” แสดงจุดยืนนโยบายขยายเวลาเปิดผับบาร์ ต้องไม่กระทบสุขภาพ ชั่งน้ำหนักให้ดี

รมว.สาธารณสุข รับหากขยายเวลาเปิดผับบาร์ถึงตี 4 อาจสัมพันธ์ทางตรงกรณีเมาแล้วขับ สิ่งสำคัญต้องมีมาตรการควบคุมป้องกันเข้มข้น สิ่งสำคัญต้องสร้างความสมดุล ทั้งมิติสุขภาพและเศรษฐกิจ สธ.ส่งเสริมให้ระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อน แต่ต้องไม่มีผลกระทบสุขภาพ  

ตามที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าหมายให้ไทยได้รับการยอมรับระดับนานาชาติด้านการป้องกันควบคุมโรคที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนหรือ  SDGs (Sustainable Development Goals)  โดยประเด็นการลดอุบัติเหตุทางถนนเป็นอีกเรื่องสำคัญ แต่ไทยยังมีปัญหาส่วนหนึ่งมาจากดื่มแล้วขับ ปรากฎว่ารัฐบาลจะมีนโยบายขยายเวลาเปิดผับบาร์ถึงตี 4 จะแก้ปัญหาอย่างไร

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า การขยายเวลาเปิดผับถึงตี 4 จะกระทบอุบัติเหตุทางถนนหรือไม่ อาจมีความสัมพันธ์ทางตรง เพราะเหตุส่วนหนึ่งที่เจอ คือ เมาหรือดื่มแล้วขับ หน้าที่เราคือทำอย่างไรจะมีมาตรการป้องกันไม่ให้คนที่ดื่ม เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการขับยวดยานพาหนะ เป็นหน้าที่เราอยู่ตรงนี้ การตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง มาตรการควบคุมตรงนี้อาจจะต้องเข้มข้น สำคัญที่สุดคือทำอย่างไรให้รับทราบและเกิดความตระหนักในการระมัดระวังในตัวบุคคล มีความเข้าใจป้องกันตนเองได้ ถ้ารู้ว่าตนเองดื่มก็ต้องไม่ฝ่าฝืนไปขับรถ

ผู้สื่อข่าวถามว่าจุดยืนของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับการขยายเวลาเปิดผับบาร์เป็นอย่างไร นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นมิติสุขภาพและเศรษฐกิจ ต้องสร้างความสมดุล เราส่งเสริมให้ระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อน แต่ต้องไม่มีผลกระทบสุขภาพ ต้องชั่งน้ำหนักตรงนี้ มาตรการไหนที่จะป้องกันดูแลไม่ให้มีผลกระทบสุขภาพต้องใส่อย่างเข้มข้น